ส.นักเรียนเก่ามะกัน โต้กลับสหรัฐ

ที่มา ไทยรัฐ
ให้เคารพมิตรประเทศ ยันไม่เป็นเมืองขึ้นใคร คสช.ไม่วิตกถูกกดดัน
คสช.ไม่ตกใจแรงกดดันจากนานาชาติ หวังสายสัมพันธ์อันยาวนานจะทำให้สหรัฐฯ-ออสเตรเลียคลายแรงบีบได้ นิวซีแลนด์อีกชาติเร่ง คสช.คืนประชาธิปไตยให้คนไทยโดยเร็ว ส.นักเรียนเก่าฯโต้มะกันจอมจุ้น ลั่นไม่เคยเป็นเมืองขึ้น ย้ำสัมพันธ์ฉันมิตร “บิ๊กตู่” เรียกคสช.ชุดใหญ่แจงความคืบหน้า 7 กลุ่มงาน หวังดันโรดแม็ปเศรษฐกิจไปสู่การปฏิบัติ กปปส.สถาปนาตนเป็นหมาเฝ้าบ้าน จับตาดูความจริงใจฝ่ายทหาร ปชป.ผสมโรงหนุนโละทิ้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ เตือนฟังข้าราชการมากระวังถูกยัดไส้ เชียร์สะสางแหล่งทำมาหากิน “ยิ่งลักษณ์” โผล่โพสต์เฟซบุ๊กครั้งแรกหลังรัฐประหาร ขอบคุณทุกความห่วงใย
จากท่าทีนานาประเทศที่เริ่มกดดันให้ คสช.เร่งคืนอำนาจอธิปไตยให้แก่ประชาชนโดยเร็ว แต่ทาง คสช.ยังไม่ยืนยันชัดเจนว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ล่าสุดสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกา ออกมาตอบโต้สหรัฐฯว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของมิตรประเทศ
“บิ๊กตู่” ยังไม่ได้ฤกษ์เข้านั่งทำเนียบฯ
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 1 มิ.ย. พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมีการใช้ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเป็นสถานที่ทำงานว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่มีนโยบายใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ทำงาน และยังคงใช้สถานที่ของกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน เป็นศูนย์กลางในการทำงาน และเชิญผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาใน บก.ทบ. ในส่วนของหน่วยงานที่ใช้สถานที่ทำเนียบรัฐบาลทำงาน ยังคงเป็นหน่วยงานเดิมที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล เช่น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
หวังมะกัน–จิงโจ้ผ่อนแรงกดดัน
พ.อ.วีรชนกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ประเทศออสเตรเลียประกาศลดระดับความร่วมมือทางการทหารกับไทยว่า คสช.ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากกระทรวงการต่างประเทศแล้ว รวมถึงมีการห้ามผู้นำ ทางทหารของกองทัพไทยเข้าประเทศออสเตรเลียด้วย ซึ่งทางกองทัพของไทยมีความเข้าใจ และพยายามใช้ทุกช่องทางที่มีอธิบายกับทุกประเทศให้เข้าใจ และพยายามหาทางผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ ทั้งนี้เราไม่ได้ตกใจแต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมา ไทย สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย มีความร่วมมือทางทหารค่อนข้างมาก แต่ต้องเข้าใจว่าการทหารของทั้ง 2 ประเทศผูกพันกับรัฐสภาของเขา เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นทางรัฐสภาของเขาก็ต้องมีการประชุมทบทวนความช่วยเหลือต่างๆ ทั้งนี้ความสัมพันธ์ทางทหารของไทยและสหรัฐฯมีมายาวนาน 185 ปี และไทยกับออสเตรเลียยาวนานกว่า 60 ปี กองทัพหวังว่าต่างประเทศจะเข้าใจและทบทวนมาตรการต่างๆต่อไป แม้ว่าความร่วมมืออื่นๆจะลดลงตาม ส่วนประเทศในอาเซียนก็มีความเข้าใจ และมีการออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วง แต่กฎกติกาของอาเซียนนั้นจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศใดประเทศหนึ่ง
เรียก คสช.ชุดใหญ่แจงผลงาน
พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษก คสช. กล่าวว่า วันที่ 2 มิ.ย. เวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เชิญรองหัวหน้า คสช. ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. รวมถึง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช.ประชุมเพื่อหารือ หลังจากให้หัวหน้าหน่วยต่างๆไปประชุมส่วนย่อยทั้ง 7 กลุ่มงานที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะกลุ่มงานเศรษฐกิจ ซึ่งหัวหน้า คสช.ให้ความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการแก้ไขให้เร็วที่สุด จึงได้เชิญสำนักงบประมาณ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานกระทรวงการคลัง มาบรรยายสรุปผลดำเนินการที่ผ่านมา รวมถึงแผนงานเร่งด่วน แผนการจัดการ การบูรณาการ เสนอเป็นโรดแม็ปเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการปฏิบัติต่อไป
ขอร้องกลุ่มต้านรอดูผลงานก่อน
พ.อ.ณัฐวัฒน์กล่าวว่า คสช.ได้ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ทุกวัน เพราะยังมีกลุ่มต่อต้าน ซึ่งหัวหน้า คสช.ได้เน้นย้ำให้เจรจาและทำความเข้าใจเป็นหลัก และขอความกรุณาให้คณะ คสช. ได้ทำงานแก้ปัญหาบ้านเมือง ปัญหาปากท้องของประชาชนก่อน อยากให้กลุ่มต่อต้านเห็นถึงความตั้งใจจริง และรอดูผลงานของ คสช.ก่อน ว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติหรือไม่ ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ขอให้มั่นใจว่า คสช.จะคืนอำนาจ จัดให้มีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
นิวซีแลนด์กดดันเร่งคืน ปชต.
วันเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานข่าวอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของนายเมอร์เรย์ แม็คคัลลี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์ ที่แสดงจุดยืนเช่นเดียวกับผู้นำอีกหลายประเทศ เรียกร้องให้ คสช. นำประเทศไทยกลับคืนสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยนายแม็คคัลลีได้อ้างถึงแผนโรดแม็ปของ คสช. ซึ่งระบุว่าจะต้องใช้เวลาราว 1 ปี 3 เดือน เพื่อรอจัดการเลือกตั้ง ถือเป็นระยะเวลาที่นานเกินไป และทางการนิวซีแลนด์ขอเรียกร้องให้แกนนำคณะรัฐประหารไทย ยึดมั่นในการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย และคืนสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน โดยเฉพาะเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลของสื่อมวลชน และสิทธิในการชุมนุมแสดงความคิดเห็นทางการเมือง รวมถึงการปล่อยตัวนักโทษการเมือง เพื่อเปิดให้กลุ่มต่างๆมีส่วนร่วมในกระบวนการปรองดองสมานฉันท์อย่างพร้อมหน้ากันทุกกลุ่ม
62 ประเทศประกาศเตือนมาไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า ล่าสุดได้มีการประกาศเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศไทยแล้ว 62 ประเทศทั่วโลก โดยมี 19 ประเทศ ที่ประกาศให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมายังประเทศไทยหากไม่จำเป็น ในระดับสีแดง หรือ avoid non-essential traver ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สเปน อิตาลี ฟินแลนด์ รัสเซีย กรีซ ฮังการี มอลตา อิหร่าน ฮ่องกง เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม โครเอเชีย และไซปรัส และอีก 43 ประเทศที่แจ้งเตือนให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินทางในประเทศไทย โดยให้เฝ้าติดตามสถานการณ์และหลีกเลี่ยงพื้นที่การชุมนุม ในระดับสีเหลือง ได้แก่ แคนาดา เม็กซิโก บราซิล ชิลี อังกฤษ ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม สวีเดน เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก ลิทัวเนีย นอร์เวย์ โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก โรมาเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย สโลวัก ลักเซมเบิร์ก ตุรกี อินเดีย คูเวต กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เคนยา ไนจีเรีย อิสราเอล คาซัคสถาน มัลดีฟส์ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน มาเก๊า อินโดนีเซีย บรูไน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
“ปู” โผล่เฟซบุ๊กหลังรัฐประหาร
เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.วันที่ 1 มิ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเห็นผ่านสื่อออนไลน์เป็นครั้งแรก ภายหลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมรูปถ่ายคู่กับ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปก์ บุตรชาย มีข้อความระบุว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา และมีหลายท่านแสดงความห่วงใย และถามไถ่ถึงสารทุกข์สุกดิบ จึงขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณในความห่วงใย ของพ่อแม่พี่น้องทุกท่านที่ได้ส่งผ่านมา ทั้งผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก และผ่านสื่ออื่นๆอย่างต่อเนื่อง จึงขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกกำลังใจที่มีให้มาโดยตลอด และขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องคนไทยทุกคนมา ณ โอกาสนี้ด้วย
กปปส.สถาปนาเป็นหมาเฝ้าบ้าน
ขณะที่นายถาวร เสนเนียม แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กล่าวว่า บทบาท กปปส.ต่อไปนี้ เราจะเป็นหมาเฝ้าบ้านคอยสอดส่องดูแลติดตามการทำงานของ คสช. รวมถึงรัฐบาล สภานิติบัญญัติ หรือสภาปฏิรูป ที่ตั้งขึ้นโดยอำนาจของ คสช. ว่าอยู่ในแนวทางที่ กปปส.เรียกร้องหรือไม่ ประชาชน สังคม ประเทศชาติได้ประโยชน์หรือไม่ ถ้าประชาชน สังคมไทยไม่ได้ประโยชน์ การรวมตัวกันเพื่อเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมืองก็อาจเกิดขึ้นได้ เพราะภารกิจของ กปปส.ยังไม่จบ เนื่องจากสิทธิการแสดงออกในทางการเมือง อยู่ติดกับสิทธิพื้นฐานของมนุษย์อยู่แล้ว แม้ช่วงนี้จะยังไม่มีรัฐธรรมนูญ ก็เป็นสิทธิตามธรรมชาติ และคาดว่าในอนาคตอันใกล้คงจะมีธรรมนูญการปกครองชั่วคราวหรือรัฐธรรมนูญออกมาบังคับใช้
จับตาดูความจริงใจฝ่ายทหาร
นายถาวรกล่าวต่อว่า เพียงแต่ช่วงนี้เราให้ความร่วมมือเพื่อส่วนรวมเพื่อประเทศชาติ แต่ห้ามไม่ให้ เราคิดที่จะพัฒนาประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเมื่อเห็นว่าปัญหาที่มีอยู่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เราก็ต้องคิดแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองให้ดีขึ้น จะห้ามความคิดคงไม่ได้ จากนี้ไปจึงต้องจับตาดูเพราะไม่แน่ใจว่าทหารจะจริงใจเข้ามาแก้ไขปัญหาชาติตามที่เราเรียกร้องให้มีการปฏิรูปหรือไม่ และคาดการณ์ได้ว่าเมื่อเกิดรัฐประหาร ระบอบทักษิณก็จะกล่าวอ้างตลอดว่า เขาถูกรังแกจากทหาร คาดว่าจะใช้โอกาสนี้ปลุกระดมประชาชนในทุกทาง อย่างที่กำลังเป็นอยู่ทั้งกลุ่มต่อต้าน ทั้งเวทีนานาชาติ
หนุนโละทิ้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. รองหัวหน้า คสช. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. เตรียมพิจารณาปรับเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจให้เหมาะสมว่า อยากให้ทหารปฏิรูปในสิ่งที่นักการเมืองทำไม่ได้ รัฐบาลที่ผ่านๆ มา ใช้บอร์ดรัฐวิสาหกิจเป็นส่วนหนึ่งในการแย่งชิงอำนาจ คาดหวังว่า คสช.จะพิจารณาบุคคลที่เป็นมืออาชีพเข้ามาทำงาน แต่ถ้าที่สุดแล้วมีแต่ทหารเข้ามาเป็นประธานบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ก็ไม่ต่างกันกับรัฐบาลอื่นๆ แต่ตนยังเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นคนดี จึงต้องดูว่าการตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจมีการใช้แนวคิดในพันธกิจเดิมๆ หรือไม่ โดยบอร์ดที่น่าจับตาดูมากที่สุดคือ บอร์ดการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.)
เตือนฟัง ขรก.มากระวังถูกยัดไส้
นายอรรถวิชช์กล่าวต่อว่า ขณะนี้หลายหน่วยงานเดินหน้าแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ เช่น กระทรวงการคลัง แต่ปัญหาด้านพลังงานที่มีกระทรวงพลังงานเป็นแม่งาน กลับไม่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยเฉพาะปัญหาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้น คสช.รับฟังข้าราชการกระทรวงพลังงานมากเกินไปหรือไม่ ทำให้การแก้ปัญหายังอยู่ในวังวนเดิม อยากให้รับฟังความเห็นจากภาคส่วนอื่นบ้าง เช่น กลุ่มเอ็นจีโอ นักวิชาการ อดีต ส.ว. ส่วนการจัดทำร่าง พ.ร.บ.รายจ่ายประจำปี 2558 อยากให้ดูใน 2 เรื่อง คือ ความคุ้มค่าในบางโครงการ และงบประมาณค่าที่ปรึกษาในโครงการต่างๆ คสช.อย่าเชื่อข้าราชการมากเกินไป โดยเฉพาะการหยิบบางโครงการของร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทมาทบทวน ขณะที่งบประมาณตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท บางโครงการยังไม่ผ่านการสำรวจผลกระทบในด้านต่างๆ ขอเตือนให้ระวังถูกข้าราชการยัดไส้ ทำให้ คสช.เดินผิด เหมือนรัฐบาลเดิมที่เดินพลาดมาแล้ว
เชียร์สะสางแหล่งทำมาหากิน
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เราสนับสนุนให้ปรับเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจบางแห่ง ที่เกิดการทุจริตจากการที่นักการเมืองส่งคนของตัวเองเข้าไปทำงาน รัฐวิสาหกิจหลายแห่งมีปัญหาหมักหมม ขอให้ คสช.ใช้โอกาสนี้ทำให้สะเด็ดน้ำ ถ้า คสช.มุ่งดำเนินการอย่างโปร่งใส เชื่อว่าประชาชนจะสนับสนุนทั้งประเทศ
“สิงห์ชัย” หนุนปัดฝุ่นเมกะโปรเจกต์
ด้านนายสิงห์ชัย ทุ่งทอง อดีต ส.ว.อุทัยธานี กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางของ คสช. ที่เตรียมปัดฝุ่นโรดแม็ปบางโครงการ ใน พ.ร.บ.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทเพื่อบริหารจัดการน้ำ และในร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อวางโครงสร้างพื้นฐานประเทศ แต่ต้องดูรายละเอียดเพื่ออุดช่องว่างไม่ให้เกิดการทุจริตได้ เพราะข้อดีที่ต้องทำโครงการขนาดใหญ่ในช่วงนี้ จะมีแรงต้านน้อยกว่าการทำโดยรัฐบาลที่มาตามครรลองระบอบประชาธิปไตยปกติ โดยเฉพาะในด้านการทำสำรวจความคิดเห็นหรือทำประชาพิจารณ์ที่สำคัญคือต้องควบคุมเครือข่ายคนใกล้ชิดของ คสช.ให้ดีเช่นกัน แต่ตนอยากให้คงนโยบายการสนับสน
ไทยโต้
ที่มา ไทยรัฐ
ให้เคารพมิตรประเทศ ยันไม่เป็นเมืองขึ้นใคร คสช.ไม่วิตกถูกกดดัน
คสช.ไม่ตกใจแรงกดดันจากนานาชาติ หวังสายสัมพันธ์อันยาวนานจะทำให้สหรัฐฯ-ออสเตรเลียคลายแรงบีบได้ นิวซีแลนด์อีกชาติเร่ง คสช.คืนประชาธิปไตยให้คนไทยโดยเร็ว ส.นักเรียนเก่าฯโต้มะกันจอมจุ้น ลั่นไม่เคยเป็นเมืองขึ้น ย้ำสัมพันธ์ฉันมิตร “บิ๊กตู่” เรียกคสช.ชุดใหญ่แจงความคืบหน้า 7 กลุ่มงาน หวังดันโรดแม็ปเศรษฐกิจไปสู่การปฏิบัติ กปปส.สถาปนาตนเป็นหมาเฝ้าบ้าน จับตาดูความจริงใจฝ่ายทหาร ปชป.ผสมโรงหนุนโละทิ้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ เตือนฟังข้าราชการมากระวังถูกยัดไส้ เชียร์สะสางแหล่งทำมาหากิน “ยิ่งลักษณ์” โผล่โพสต์เฟซบุ๊กครั้งแรกหลังรัฐประหาร ขอบคุณทุกความห่วงใย
จากท่าทีนานาประเทศที่เริ่มกดดันให้ คสช.เร่งคืนอำนาจอธิปไตยให้แก่ประชาชนโดยเร็ว แต่ทาง คสช.ยังไม่ยืนยันชัดเจนว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ล่าสุดสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกา ออกมาตอบโต้สหรัฐฯว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของมิตรประเทศ
“บิ๊กตู่” ยังไม่ได้ฤกษ์เข้านั่งทำเนียบฯ
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 1 มิ.ย. พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมีการใช้ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเป็นสถานที่ทำงานว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่มีนโยบายใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ทำงาน และยังคงใช้สถานที่ของกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน เป็นศูนย์กลางในการทำงาน และเชิญผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาใน บก.ทบ. ในส่วนของหน่วยงานที่ใช้สถานที่ทำเนียบรัฐบาลทำงาน ยังคงเป็นหน่วยงานเดิมที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล เช่น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
หวังมะกัน–จิงโจ้ผ่อนแรงกดดัน
พ.อ.วีรชนกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ประเทศออสเตรเลียประกาศลดระดับความร่วมมือทางการทหารกับไทยว่า คสช.ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากกระทรวงการต่างประเทศแล้ว รวมถึงมีการห้ามผู้นำ ทางทหารของกองทัพไทยเข้าประเทศออสเตรเลียด้วย ซึ่งทางกองทัพของไทยมีความเข้าใจ และพยายามใช้ทุกช่องทางที่มีอธิบายกับทุกประเทศให้เข้าใจ และพยายามหาทางผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ ทั้งนี้เราไม่ได้ตกใจแต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมา ไทย สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย มีความร่วมมือทางทหารค่อนข้างมาก แต่ต้องเข้าใจว่าการทหารของทั้ง 2 ประเทศผูกพันกับรัฐสภาของเขา เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นทางรัฐสภาของเขาก็ต้องมีการประชุมทบทวนความช่วยเหลือต่างๆ ทั้งนี้ความสัมพันธ์ทางทหารของไทยและสหรัฐฯมีมายาวนาน 185 ปี และไทยกับออสเตรเลียยาวนานกว่า 60 ปี กองทัพหวังว่าต่างประเทศจะเข้าใจและทบทวนมาตรการต่างๆต่อไป แม้ว่าความร่วมมืออื่นๆจะลดลงตาม ส่วนประเทศในอาเซียนก็มีความเข้าใจ และมีการออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วง แต่กฎกติกาของอาเซียนนั้นจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศใดประเทศหนึ่ง
เรียก คสช.ชุดใหญ่แจงผลงาน
พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษก คสช. กล่าวว่า วันที่ 2 มิ.ย. เวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เชิญรองหัวหน้า คสช. ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. รวมถึง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช.ประชุมเพื่อหารือ หลังจากให้หัวหน้าหน่วยต่างๆไปประชุมส่วนย่อยทั้ง 7 กลุ่มงานที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะกลุ่มงานเศรษฐกิจ ซึ่งหัวหน้า คสช.ให้ความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการแก้ไขให้เร็วที่สุด จึงได้เชิญสำนักงบประมาณ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานกระทรวงการคลัง มาบรรยายสรุปผลดำเนินการที่ผ่านมา รวมถึงแผนงานเร่งด่วน แผนการจัดการ การบูรณาการ เสนอเป็นโรดแม็ปเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการปฏิบัติต่อไป
ขอร้องกลุ่มต้านรอดูผลงานก่อน
พ.อ.ณัฐวัฒน์กล่าวว่า คสช.ได้ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ทุกวัน เพราะยังมีกลุ่มต่อต้าน ซึ่งหัวหน้า คสช.ได้เน้นย้ำให้เจรจาและทำความเข้าใจเป็นหลัก และขอความกรุณาให้คณะ คสช. ได้ทำงานแก้ปัญหาบ้านเมือง ปัญหาปากท้องของประชาชนก่อน อยากให้กลุ่มต่อต้านเห็นถึงความตั้งใจจริง และรอดูผลงานของ คสช.ก่อน ว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติหรือไม่ ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ขอให้มั่นใจว่า คสช.จะคืนอำนาจ จัดให้มีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
นิวซีแลนด์กดดันเร่งคืน ปชต.
วันเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานข่าวอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของนายเมอร์เรย์ แม็คคัลลี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์ ที่แสดงจุดยืนเช่นเดียวกับผู้นำอีกหลายประเทศ เรียกร้องให้ คสช. นำประเทศไทยกลับคืนสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยนายแม็คคัลลีได้อ้างถึงแผนโรดแม็ปของ คสช. ซึ่งระบุว่าจะต้องใช้เวลาราว 1 ปี 3 เดือน เพื่อรอจัดการเลือกตั้ง ถือเป็นระยะเวลาที่นานเกินไป และทางการนิวซีแลนด์ขอเรียกร้องให้แกนนำคณะรัฐประหารไทย ยึดมั่นในการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย และคืนสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน โดยเฉพาะเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลของสื่อมวลชน และสิทธิในการชุมนุมแสดงความคิดเห็นทางการเมือง รวมถึงการปล่อยตัวนักโทษการเมือง เพื่อเปิดให้กลุ่มต่างๆมีส่วนร่วมในกระบวนการปรองดองสมานฉันท์อย่างพร้อมหน้ากันทุกกลุ่ม
62 ประเทศประกาศเตือนมาไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า ล่าสุดได้มีการประกาศเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศไทยแล้ว 62 ประเทศทั่วโลก โดยมี 19 ประเทศ ที่ประกาศให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมายังประเทศไทยหากไม่จำเป็น ในระดับสีแดง หรือ avoid non-essential traver ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สเปน อิตาลี ฟินแลนด์ รัสเซีย กรีซ ฮังการี มอลตา อิหร่าน ฮ่องกง เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม โครเอเชีย และไซปรัส และอีก 43 ประเทศที่แจ้งเตือนให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินทางในประเทศไทย โดยให้เฝ้าติดตามสถานการณ์และหลีกเลี่ยงพื้นที่การชุมนุม ในระดับสีเหลือง ได้แก่ แคนาดา เม็กซิโก บราซิล ชิลี อังกฤษ ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม สวีเดน เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก ลิทัวเนีย นอร์เวย์ โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก โรมาเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย สโลวัก ลักเซมเบิร์ก ตุรกี อินเดีย คูเวต กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เคนยา ไนจีเรีย อิสราเอล คาซัคสถาน มัลดีฟส์ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน มาเก๊า อินโดนีเซีย บรูไน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
“ปู” โผล่เฟซบุ๊กหลังรัฐประหาร
เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.วันที่ 1 มิ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเห็นผ่านสื่อออนไลน์เป็นครั้งแรก ภายหลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมรูปถ่ายคู่กับ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปก์ บุตรชาย มีข้อความระบุว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา และมีหลายท่านแสดงความห่วงใย และถามไถ่ถึงสารทุกข์สุกดิบ จึงขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณในความห่วงใย ของพ่อแม่พี่น้องทุกท่านที่ได้ส่งผ่านมา ทั้งผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก และผ่านสื่ออื่นๆอย่างต่อเนื่อง จึงขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกกำลังใจที่มีให้มาโดยตลอด และขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องคนไทยทุกคนมา ณ โอกาสนี้ด้วย
กปปส.สถาปนาเป็นหมาเฝ้าบ้าน
ขณะที่นายถาวร เสนเนียม แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กล่าวว่า บทบาท กปปส.ต่อไปนี้ เราจะเป็นหมาเฝ้าบ้านคอยสอดส่องดูแลติดตามการทำงานของ คสช. รวมถึงรัฐบาล สภานิติบัญญัติ หรือสภาปฏิรูป ที่ตั้งขึ้นโดยอำนาจของ คสช. ว่าอยู่ในแนวทางที่ กปปส.เรียกร้องหรือไม่ ประชาชน สังคม ประเทศชาติได้ประโยชน์หรือไม่ ถ้าประชาชน สังคมไทยไม่ได้ประโยชน์ การรวมตัวกันเพื่อเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมืองก็อาจเกิดขึ้นได้ เพราะภารกิจของ กปปส.ยังไม่จบ เนื่องจากสิทธิการแสดงออกในทางการเมือง อยู่ติดกับสิทธิพื้นฐานของมนุษย์อยู่แล้ว แม้ช่วงนี้จะยังไม่มีรัฐธรรมนูญ ก็เป็นสิทธิตามธรรมชาติ และคาดว่าในอนาคตอันใกล้คงจะมีธรรมนูญการปกครองชั่วคราวหรือรัฐธรรมนูญออกมาบังคับใช้
จับตาดูความจริงใจฝ่ายทหาร
นายถาวรกล่าวต่อว่า เพียงแต่ช่วงนี้เราให้ความร่วมมือเพื่อส่วนรวมเพื่อประเทศชาติ แต่ห้ามไม่ให้ เราคิดที่จะพัฒนาประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเมื่อเห็นว่าปัญหาที่มีอยู่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เราก็ต้องคิดแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองให้ดีขึ้น จะห้ามความคิดคงไม่ได้ จากนี้ไปจึงต้องจับตาดูเพราะไม่แน่ใจว่าทหารจะจริงใจเข้ามาแก้ไขปัญหาชาติตามที่เราเรียกร้องให้มีการปฏิรูปหรือไม่ และคาดการณ์ได้ว่าเมื่อเกิดรัฐประหาร ระบอบทักษิณก็จะกล่าวอ้างตลอดว่า เขาถูกรังแกจากทหาร คาดว่าจะใช้โอกาสนี้ปลุกระดมประชาชนในทุกทาง อย่างที่กำลังเป็นอยู่ทั้งกลุ่มต่อต้าน ทั้งเวทีนานาชาติ
หนุนโละทิ้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. รองหัวหน้า คสช. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. เตรียมพิจารณาปรับเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจให้เหมาะสมว่า อยากให้ทหารปฏิรูปในสิ่งที่นักการเมืองทำไม่ได้ รัฐบาลที่ผ่านๆ มา ใช้บอร์ดรัฐวิสาหกิจเป็นส่วนหนึ่งในการแย่งชิงอำนาจ คาดหวังว่า คสช.จะพิจารณาบุคคลที่เป็นมืออาชีพเข้ามาทำงาน แต่ถ้าที่สุดแล้วมีแต่ทหารเข้ามาเป็นประธานบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ก็ไม่ต่างกันกับรัฐบาลอื่นๆ แต่ตนยังเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นคนดี จึงต้องดูว่าการตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจมีการใช้แนวคิดในพันธกิจเดิมๆ หรือไม่ โดยบอร์ดที่น่าจับตาดูมากที่สุดคือ บอร์ดการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.)
เตือนฟัง ขรก.มากระวังถูกยัดไส้
นายอรรถวิชช์กล่าวต่อว่า ขณะนี้หลายหน่วยงานเดินหน้าแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ เช่น กระทรวงการคลัง แต่ปัญหาด้านพลังงานที่มีกระทรวงพลังงานเป็นแม่งาน กลับไม่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยเฉพาะปัญหาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้น คสช.รับฟังข้าราชการกระทรวงพลังงานมากเกินไปหรือไม่ ทำให้การแก้ปัญหายังอยู่ในวังวนเดิม อยากให้รับฟังความเห็นจากภาคส่วนอื่นบ้าง เช่น กลุ่มเอ็นจีโอ นักวิชาการ อดีต ส.ว. ส่วนการจัดทำร่าง พ.ร.บ.รายจ่ายประจำปี 2558 อยากให้ดูใน 2 เรื่อง คือ ความคุ้มค่าในบางโครงการ และงบประมาณค่าที่ปรึกษาในโครงการต่างๆ คสช.อย่าเชื่อข้าราชการมากเกินไป โดยเฉพาะการหยิบบางโครงการของร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทมาทบทวน ขณะที่งบประมาณตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท บางโครงการยังไม่ผ่านการสำรวจผลกระทบในด้านต่างๆ ขอเตือนให้ระวังถูกข้าราชการยัดไส้ ทำให้ คสช.เดินผิด เหมือนรัฐบาลเดิมที่เดินพลาดมาแล้ว
เชียร์สะสางแหล่งทำมาหากิน
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เราสนับสนุนให้ปรับเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจบางแห่ง ที่เกิดการทุจริตจากการที่นักการเมืองส่งคนของตัวเองเข้าไปทำงาน รัฐวิสาหกิจหลายแห่งมีปัญหาหมักหมม ขอให้ คสช.ใช้โอกาสนี้ทำให้สะเด็ดน้ำ ถ้า คสช.มุ่งดำเนินการอย่างโปร่งใส เชื่อว่าประชาชนจะสนับสนุนทั้งประเทศ
“สิงห์ชัย” หนุนปัดฝุ่นเมกะโปรเจกต์
ด้านนายสิงห์ชัย ทุ่งทอง อดีต ส.ว.อุทัยธานี กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางของ คสช. ที่เตรียมปัดฝุ่นโรดแม็ปบางโครงการ ใน พ.ร.บ.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทเพื่อบริหารจัดการน้ำ และในร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อวางโครงสร้างพื้นฐานประเทศ แต่ต้องดูรายละเอียดเพื่ออุดช่องว่างไม่ให้เกิดการทุจริตได้ เพราะข้อดีที่ต้องทำโครงการขนาดใหญ่ในช่วงนี้ จะมีแรงต้านน้อยกว่าการทำโดยรัฐบาลที่มาตามครรลองระบอบประชาธิปไตยปกติ โดยเฉพาะในด้านการทำสำรวจความคิดเห็นหรือทำประชาพิจารณ์ที่สำคัญคือต้องควบคุมเครือข่ายคนใกล้ชิดของ คสช.ให้ดีเช่นกัน แต่ตนอยากให้คงนโยบายการสนับสน